Thursday, February 12, 2009

อาหารยามยาก

ว่ากันด้วยอาหารยามยาก หลายๆ คนก็คงจะคิดถึง บะหมี่สำเร็จรูป หรือเรียกกันง่ายๆ ว่า “มาม่า” ทั้งที่บะหมี่สำเร็จรูปมีหลากหลายยี่ห้อ แต่ว่ามาม่าก็เป็นชื่อที่เรียกกันติดปากกันมานานแล้ว เหมือนกับที่เราเรียกผงซักฟอกว่า “แฟ๊บ” ทั้งที่มันเป็นยี่ห้อหนึ่งของผงซักฟอกเช่นกัน

ในเมืองไทยหากยอดขายของมาม่าเพิ่มสูงขึ้น ก็เป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจคงเริ่มจะมีปัญหาแล้ว เหมือนเป็น Leading Indicator ทางเศรษฐกิจที่บ่งบอกว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคคงเริ่มถดถอย มาม่า และปลากระป๋อง เรียกได้ว่า เป็นอาหารยามยากของคนไทยก็ว่าได้ เหมือนที่มีการพูดกันเล่นๆ ในหมู่นักพนันบอล ที่คืนไหนเสียบอล ก็จะบอกว่าคืนนี้กินมาม่าอีกแล้ว

วันก่อนได้อ่านกรอบเล็กๆ ในนิตยสารไทม์ เกี่ยวกับการบริโภค “Baked Beans” ในประเทศอังกฤษ ที่เพิ่มขึ้นสูงถึง 12% ทั้งนี้เนื่องจากราคาอาหารโดยรวมได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ซึ่งไอ้เจ้าถั่วนี่เป็นอาหารที่ถูกมากเมื่อเทียบกับอาหารกระป๋องชนิดอื่นๆ จำได้ว่าตอนอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ไปเห็นเจ้าถั่วกระป๋องยี่ห้อเทสโก้ ราคาตกแค่กระป๋องละ 7 เพนนี ซึ่งเรียกว่าถูกมากๆ ถูกกว่าข้าวเปล่าซะอีก (ในรูปนี่ยังดีไซน์พัฒนาขึ้นมาหน่อย ตอนนั้นที่เห็นเป็นแค่ฉลากขาวๆ ติดคำว่า Tesco Value) ว่ากันว่าถั่วนี้สามารถกินแก้หนาวได้ดีมากๆ แต่ผมก็ไม่ค่อยชอบทานเท่าไหร่
ส่วนในสหรัฐอเมริกาก็เช่นเดียวกันยอดขายของอาหารกระป๋องโดยเฉพาะ Spam ก็เพิ่มขึ้นถึงกว่า 10% ไอ้เจ้าสแปมนี่ผมก็ชอบทานนะ มันทำจากหมูบด อารมณ์คล้ายๆ ไส้กรอกผสมกับแฮม เอาไปทอดให้กรอบๆ หน่อยก็อร่อยดี หรือหั่นเป็นลูกเต๋าแล้วทอดให้กรอบ ผัดกับผักก็เข้ากันดี แต่สำหรับผมมันก็ไม่ได้ราคาถูกมากมายนะ ก็พอๆ กับราคาไส้กรอกนั่นแหละ
โดยส่วนตัวของผมแล้วบะหมี่สำเร็จรูป เป็นอาหารที่ผมชื่นชอบมาก ไม่ใช่เพราะมันง่าย เพราะมันราคาถูก แต่ผมชอบเพราะมันถูกปาก แต่แม่ก็ไม่ชอบให้กินมาก โดยบอกว่ามันใส่ผงชูรสเยอะและสารอาหารน้อย แต่แม่หารู้ไม่ว่า ก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอยมันใส่ผงชูรสเยอะกว่าซะอีก ตอนแรกๆ เราก็นึกว่าน้ำตาลเห็นใส่เป็นช้อนๆ ปรากฎว่ามันคือผงชูรสนั่นเอง

จะว่าไปแล้วก๋วยเตี๋ยวนี่ใส่ผงชูรสเยอะมาก ตั้งแต่น้ำซุปในหม้อ เคยมีโอกาสเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวเตรียมน้ำซุป เขาใส่ผงชูรสซองเล็กทั้งถุง ตามด้วยเกลืออีกถุง นอกจากนั้นพวกอาหารตามสั่งก็ใส่ด้วยเช่นกัน มีครั้งนึงตักพริกน้ำปลา เห็นมีเกล็ดเล็กๆ ติดอยู่ที่ช้อน ปรากฎว่าไม่ใช่น้ำตาลทราย มันคือผงชูรสอีกแล้ว ไม่ทราบว่าจะกระตุ้นต่อมรับรสของคนกินไปถึงไหน จึงได้ใส่มันซะในทุกขั้นตอนของการทำอาหาร
กลับมาที่เรื่องบะหมี่สำเร็จรูป ยี่ห้อที่ผมชอบมากที่สุดก็คือ ไวไว โดยเฉพาะรสต้นตำรับ ในรูปทางซ้ายมือ ข้างหลังซองจะมีรูปเด็กทานบะหมี่อยู่ ว่ากันว่าคือ ดาราชาย เพ็ญเพชร เพ็ญกุล ยามเป็นเด็ก ไวไวรสนี้จะมีเส้นที่เหนียวและเค็ม เหมาะกับการนำไปทำยำมาม่ามาก (ยำไวไวนั่นแหละ) อีกรูปก็คือรสต้มยำ (ทางขวามือ) เป็นที่น่าเสียดายมากที่รสต้มยำแบบทางขวามือนี้ไม่มีขายในประเทศไทยแล้ว แต่ว่าโชคดีมากผมได้มาเจอมันขายอีกครั้งในอเมริกา นับเป็นเรื่องดีๆ อีกเรื่องหนึ่งที่ผมพบที่นี่เลยทีเดียว

รสต้มยำของไวไว ในปัจจุบันไม่ถูกปากผมอย่างแรง มันรสเผ็ดแบบจางๆ ไม่เข้มข้นเหมือนแบบดังเดิม ที่มีน้ำพริกเผาซองโตเพียงซองเดียว แต่เข้มข้นมาก นอกจากนั้นเส้นของไวไวควิกมันก็บางๆ ไม่มีความเหนียวเอาเสียเลย ถ้าเสียงเบาๆ ของผมส่งไปถึงบริษัทไวไวได้ ก็หวังว่าจะได้เห็นไวไวรสต้มยำแบบดั้งเดิมวางขายในไทยอีกครั้ง เรารู้ว่าคุณยังผลิตอยู่นะ แต่ไม่ขายเท่านั้นเอง :’(
บะหมี่สำเร็จรูปที่ผมชอบก็คือ เมียวโจ้ หลังจากที่เมียวโจ้ถูกเทคโอเวอร์โดยมาม่าก็หายไปจากตลาดเมืองไทย เมียวโจ้มีเส้นและรสที่อร่อยมาก โดยเฉพาะรสหมูย่าง และรสเป็ดพะโล้ แต่เหมือนฟ้าผ่าสองครั้งในที่เดียวกัน ผมก็ได้มาเจอเมียวโจ้รสเป็ดพะโล้ที่อเมริกาเช่นกัน เพียงแต่เปลี่ยนชื่อเป็นมาม่าเท่านั้นเอง รสชาติยังคงเหมือนเดิม แต่หาได้แค่รสเป็ดพะโล้อย่างเดียว

เคยได้ยินโฆษณาบะหมี่สำเร็จรูปเก่าๆ ซึ่งมีประโยคที่ผมจำได้คือ “...ชีวิตมันไม่ได้สำเร็จรูปเหมือนบะหมี่…” แต่ผมก็คิดว่าแม้ชีวิตมันจะสำเร็จรูป หรือดูจะถูกกำหนดเป็นสูตรสำเร็จไว้แล้ว เช่น เรียน สอบ แข่งกันหางานให้ได้เงินเยอะ พยายามมีครอบครัวที่มั่นคง แต่เราก็เติมสิ่งดีๆ หรือสีสันให้กับชีวิตได้ เช่นเดียวกับการเติมหมู ไก่ กุ้ง ไข่ หรือผักเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับบะหมีสำเร็จรูปได้เช่นกัน

ขณะจะจบบทความนี้ก็มีเสียงเพลงแว่วเข้ามาในหู ซึ่งเป็นเพลงโฆษณาบะหมี่สำเร็จรูปอีกเช่นกัน จำได้แค่ประโยคเดียวนี่แหละ
"...ก็แค่เส้นบางๆ ระหว่างทางของเรา..."
(เขียนเมื่อ ๗ กันยายน ๒๕๕๑)

No comments:

Post a Comment