Tuesday, February 2, 2010

อารมณ์ขำและคิดถึงหนังโจวซิงฉือ


ผมคิดว่าอารมณ์ขันนั้นเป็นอารมณ์เฉพาะของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตอื่น แสดงอารมณ์ขันได้เลย ถ้าเป็นอารมณ์สนุกก็พอจะเห็นได้บ้าง อย่างเช่นเวลาเล่นกับสุนัข (ผมเดาว่ามันสนุกนะ แต่จริงๆ ไม่รู้ว่ามันสนุกหรือเปล่า เห็นมันกระดิกหางวิ่งไปมาก็เข้าใจว่ามันน่าจะสนุก)

อารมณ์ขันก็คล้ายๆ กับความพอใจในรสอาหารซึ่งมีความเฉพาะตามบุคคล แต่ว่าขอบเขตมันกว้างมาก อย่างในเรื่องอาหาร ถ้าอาหารรสดี คนส่วนใหญ่ที่กินก็จะรู้สึกไปในทางเดียวกัน แม้ว่าความชอบมากน้อยอาจต่างกันไปบ้าง แต่ว่าเรื่องตลกนี่มันกว้างไปกว่านั้น บางคนรับรู้เรื่องเดียวกัน คนหนึ่งอาจขำเป็นบ้าเป็นหลัง แต่ว่ากับอีกคนอาจไม่ขำแถมไม่ชอบอีกต่างหาก ยกตัวอย่างเช่น ผมดูพวกเดี่ยวฯ ของโน้ส อุดม ก็ไม่ขำ แค่หัวเราะหึๆ กับบางมุก แต่หลายๆ คนก็ดูจะชอบและขำกันมากมาย

เท่าที่สังเกตตัวเองมาระยะหลังมุกตลกหรือหนังตลกเรื่องตลกแบบก่อนๆ มันไม่ค่อยขำเท่าไหร่ ไม่รู้เพราะเส้นลึกไปตามวัยหรือรสนิยมเปลี่ยนไปหรือเปล่า แต่ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ เด็กเล็กๆ นี่ขำง่าย เล่นจ๊ะเอ๋ก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากแล้ว (ในทางกลับกันก็ร้องไห้และเศร้าได้ง่ายเช่นกัน) เหมือนว่ายิ่งโตขึ้นการควบคุมอารมณ์มีมากขึ้นตามลำดับพออายุมากขึ้น

หนังสือการ์ตูนแต่ก่อนก็มีหลายเรื่องที่อ่านแล้วขำล่าสุดก็คือ ครอบครัวตัว ฮ. ที่พี่ชายซื้อไว้ ส่วนหนังการ์ตูนล่าสุดที่ได้ดูแล้วคิดว่าขำก็คือ คุโรมาตี้ (anime) แบบเป็นการ์ตูนไม่มีโอกาสได้อ่าน พวกเรื่องขำขันก็เช่นกัน หาแบบตลกๆ ได้ยากเต็มที

ส่วนถ้าจะพูดถึงหนังที่ชวนขำมากที่สุดสำหรับผม ก็คือหนังของ โจว ซิง ฉือ สมัยแรกๆ ตอนเรียนมหาวิทยาลัยไม่เคยพลาดเลยที่จะดูหนังของโจวซิงฉือในโรงหนัง ซึ่งไปดูกันทีก็เป็นกลุ่มใหญ่ๆ ทีมพากย์ก็ต้องทีมพากย์อินทรีไม่งั้นไม่สนุก

เรื่องแรกที่ได้ดูไม่ได้ดูในโรงหนัง แต่ว่าดูกับเพื่อนสามคน เนื่องด้วยว่ามีเพื่อนคนหนึ่งต้องนอนโรงพยาบาลหลายวัน มันจึงเช่าหนังมาดู ซึ่งก็คือเรื่อง “โลกบอกว่าข้าต้องใหญ่” เป็นหนังที่ดูแล้วขำมากๆ เรียกว่าหัวเราะกันท้องแข็งแทบทุกฉาก

อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องน่าเศร้าว่าในระยะหลังๆ หนังของเฮียโจวไม่ค่อยขำเท่าไหร่ (สำหรับผม) ไม่รู้ว่าต้องการทำให้อารมณ์ขันเป็นสากลขึ้นหรือไม่ แต่ว่าความเป็นตลก แบบงี่เง่าๆ มันหายไปอย่างบอกไม่ถูก ถ้าเสียงเล็กๆ ของผมไปถึงเฮียโจวได้ อยากบอกเฮียว่าทำหนังแบบเดิมเหอะ ไม่ต้องเอาโกอินเตอร์ก็ได้

มีอีกอย่างหนึ่งซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะเหตุใดผม (และอีกหลายคนคงเป็นเหมือนกัน) ที่มีอารมณ์ขำกับสิ่งต่างๆ ได้ยากขึ้น ไม่รู้ว่ามันจะเกิดจากการที่ในชีวิตที่ผ่านมาเราเจอเรื่องขำๆ มาเยอะ หรือว่าเจอเรื่องไม่ขำมาเยอะกันแน่

ปล. มีคนเอาเรื่อง “โลกบอกว่าข้าต้องใหญ่” มาลงไว้ในเนตด้วย (ตอน 3 ซ้ำกับตอน 2 ข้ามไปตอน 4 ได้เลย) ใครยังไม่เคยดูต้องลองดูนะ ส่วนจะขำไม่ขำก็แล้วแต่ความลึกของเส้น http://video.mthai.com/player.php?id=23M1218434130M0

No comments:

Post a Comment